วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2562

แปรรูปผลไม้เป็นงานพิเศษทำที่บ้าน

แปรรูปผลไม้เป็นงานพิเศษทำที่บ้าน

มะขามป้อม ผลไม้มากคุณประโยชน์ ปัจจุบันยังหาทานผลสดๆได้ยากเนื่องจากไม่ค่อยมีใครนำต้นมาปลูก นอกจากการปลูกเป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำหรับเก็บผลขาย เพราะมะขามป้อมมีสรรพคุณทางยา ทำให้มีการนำไปตากแห้งขายเป็นสมุนไพร
ซึ่งเป็นได้ทั้งงานพิเศษทำที่บ้านเพื่อหารายได้เสริม และเป็นอาชีพหลักของครอบครัว สำหรับวันนี้ eveleighmarket.com มาแนะนำสูตรและวิธีทำมะขามป้อมแช่อิ่ม เป็นงานพิเศษทำที่บ้าน ที่สามารถสร้างรายได้ให้ตลอดทั้งปีค่ะ

สูตรและวิธีทำมะขามป้อมแช่อิ่ม

วัตถุดิบและส่วนประกอบ
1.มะขามป้อมผลดิบ 500 กรัม
2.เกลือป่น 3 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทราย 300 กรัม
4.น้ำเปล่า 3 ถ้วย
5.น้ำปูนใส 2 ถ้วย
วิธีทำมะขามป้อมแช่อิ่ม
1.ล้างมะขามป้อมให้สะอาด ซอยตามลูกให้รอบหรือคว้านเอาเมล็ดออก
2.ผสมน้ำเปล่ากับเกลือคนให้เกลือละลาย นำมะขามป้อมที่เตรียมไว้แทใส่ลงในน้ำเกลือ
3.ปิดฝาภาชนะหรือปิดทับให้มะขามป้อมแช่ลงในน้ำเกลือ ทิ้งไว้ 1 คืน
4.นำมะขามป้อมล้างน้ำเปล่าอีกครั้ง แล้วบีบให้แห้งจากนั้นแช่ในน้ำปูนใส 1-2 ชั่วโมง
5.นำมะขามป้อมออกจากน้ำปูน แล้วผึ่งให้แห้ง
6.เทน้ำเปล่า 3 ถ้วยใส่ในภาชนะนำขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำตาลทรายลงไป เคี้ยวไฟอ่อนๆ จนน้ำเชื่อมเริ่มเหนียว ยกลงพักไว้ให้เย็น
7.กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำมะขามป้อมลงแช่อิ่มในน้ำเชื่อมปิดฝาไว้ 1 คืน
8.นำมะขามป้อมออกจากน้ำเชื่อม แล้วช้อนฟองในน้ำเชื่อมทิ้ง จากนั้นนำไปตั้งไฟเคี่ยวสักครู่แล้วยกลงพักไว้ให้เย็น
9.จากนั้นนำมะขามป้อมลงแช่ในน้ำเชื่อมแล้วปิดฝา
10.ทำซ้ำๆ ประมาณ 3-5 วันหรือจนรู้สึกว่าน้ำเชื่อเริ่มซึมเข้าในเนื้อมะขามป้อม
11.แพ็คใส่ถุงหรือภาชนะ พร้อมขาย
เคล็ดลับความอร่อยมะขามป้อมแช่อิ่ม
มะขามป้อมแช่อิ่ม เก็บใส่ภาชนะลอยในน้ำเชื่อมแล้วใส่ตู้เย็นไว้ได้นาน ประมาณ 3 เดือน หรือจะทานเป็นมะขามป้อมลอยแก้วเย็นก็ชื่นใจ นอกจากทำทานแล้วยังเป็นงานพิเศษทำที่บ้านสามารถขายหารายได้เสริม ได้อีกด้วย

สรรพคุณของมะขามป้อม
1.ทานแก้อาการคลื่นไส้อาเจียนได้
2.ลดคอเลสตอรอล ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
3.บำรุงรักษาตา แก้ตาอักเสบ
4.บำรุงประสาทและสมอง
5.ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ด้วยสรรพคุณของมะขามป้อม ทำให้มีการนำไปเป็นส่วนประกอบในตัวยาหลายชนิด สำหรับคนที่มีพื้นที่ว่างการปลูกไว้เป็นร่มเงา หรือปลูกไว้ตามแนวรั้ว นอกจากเก็บผลสุกทำเป็นมะขามป้อมแช่อิ่มแล้ว ยังนำไปตากแห้งเพื่อขายเป็นสมุนไพรได้อีกทางหนึ่ง งานพิเศษทำที่บ้านหาได้ไม่ยากหากเรามองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวแล้วนำมาสร้างรายได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

ตรีผลา เป็นชื่อพิกัดยาในตำรับการรักษาโรคแบบแพทย์แผนไทย

ตรีผลา ผลไม้สามอย่างที่ให้คุณในฤดูร้อน

  สมอภิเภก สมอไทย และมะขามป้อม

คุณประโยชน์ที่ว่านี้ก็คือช่วยปรับสมดุลต่าง ๆ ที่จะแปรปรวนในช่วงฤดูร้อน ปัจจุบัน มีวิจัยพบว่า ผลไม้ทั้งสามนี้มีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยต้านหวัดได้ดี และมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งตับ รวมถึงตับอ่อนได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยาระบาย รู้ถ่ายรู้ปิด กล่าวคือ ใครท้องผูกก็จะช่วยให้ถ่าย แต่ถ้าใครถ่ายมากเกินไปก็จะทำให้หยุดถ่ายนั้นเอง  สารพัดประโยชน์อย่างนี้หากคิดปรุงดื่มดูสักทีก็ไม่ใช่เรื่องยาก เรามีสูตรมาฝากคุณ

ส่วนผสม                                            เม.ย.-ก.ค.                ส.ค.-พ.ย.           ธ.ค.-มี.ค.
สมอภิเภกแห้ง                                หนัก 12 บาท (180 กรัม)      4 บาท              8  บาท
สมอไทยสดหรือแห้งก็ได้                    หนัก  8  บาท (120 กรัม)   12 บาท              4 บาท
มะขามป้อมสดหรือแห้งก็ได้                 หนัก  4    บาท (60 กรัม)   8  บาท             12 บาท
น้ำเปล่า

วิธีทำ
เมื่อซื้อตัวยาผลไม้แห้ง-สดเหล่านี้มาจากร้านจำหน่ายยาสมุนไพรไทย หรือตลาดสด  ให้นำมาล้างให้สะอาด ก่อนบุบด้วยสากหินให้พอแตก ใส่ลงในหม้อสเตนเลสหรือหม้อดิน ใช้มือกดตัวยาให้ติดหม้อ แล้วรินน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมหลังมือ  ปิดฝา ต้มด้วยไฟกลางจนเดือดแล้วหรี่ไฟลงเคี่ยวนาน 30 นาที รินน้ำครั้งที่หนึ่งใส่ภาชนะไว้ เติมน้ำลงในหม้อใบเดิมให้สูงกว่าตัวยา 1 ข้อนิ้วมือ ตั้งไฟทำเช่นเดิม รินน้ำที่ได้ผสมกับน้ำตรีผลาส่วนที่ 1 ทำเช่นเดียวกันอีกครั้ง (รวม 3 รอบ)
กรองน้ำยาที่ได้ผ่านผ้าขาวบาง แล้วนำกากยาไปจำเริญ (เทใส่โคนต้นไม้) นำน้ำตรีผลาที่ได้มาดื่มครั้งละ 1 ถ้วยชา ถ้ารับประทานไม่หมด รินใส่ขวด แช่เย็นเก็บไว้ได้ 1 สัปดาห์  ควรอุ่นก่อนรับประทานเสมอ

Tip
น้ำตรีผลามีรสเปรี้ยวและฝาด เพื่อรสชาติที่ดีขึ้น สามารถตวงน้ำตรีผลา 1 ถ้วยชา ผสมกับน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำอุ่นลงไปอีก ½ ถ้วย คนให้เข้ากันรินใส่น้ำแข็งดื่ม เป็นเครื่องดื่มเย็นได้ ทว่าดื่มแบบร้อนสรรพคุณจะออกฤทธิ์ได้ดีกว่า

หมายเหตุ:
แม้ตำรับยานี้จะให้คุณดีในฤดูร้อน แต่ก็มีวิธีปรับน้ำหนักตัวยาเพื่อให้สามารถต้มดื่มบำรุงสุขภาพได้ทั้งปี ตามที่ระบุไว้

เอกสารอ้างอิง “สูตรสมุนไพรต้านชรายับยั้งมะเร็ง www.stage1.thaihealth.or.th”

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562

#สูตรแหนมเห็ดนางฟ้าเจ

#สูตรแหนมเห็ดนางฟ้าเจ ทำทานเองง่ายๆ

ส่วนผสมในการทำแหนมเห็ดนางฟ้า
1.เห็ดนางฟ้า1 กิโลกรัม
2.เกลือ 25 กรัม
3.ข้าวเหนียวสุก 200 กรัม
4.พริกขี้หนูสด ตามความเหมาะสม

วิธีการทำ
1.เลือกเห็ดนางฟ้าดอกสวยๆ มาตัดส่วนที่สกปรกทิ้ง ล้างน้ำให้สะอาด ฉีกเห็ดนางฟ้าตามแนวยาว ให้เป็นเส้นกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
2.ลวกเห็ดในน้ำเดือดให้พอสุก ตักขึ้นพักให้เย็นหรือจะนึ่งก็ได้
3.บีบน้ำออกจากเห็ดให้แห้งสนิท (ใช้ผ้าขาวบางห่อแล้วบีบน้ำออก)
4.คลุกเคล้าเห็ดกับเกลือ และข้าวเหนียวสุก
5.บรรจุเห็ดลงถุงพลาสติก ใส่พริกขี้หนูสดตามชอบ รัดถุงให้แน่น ไม่ให้อากาศเข้า
ทิ้งไว้ประมาณ 2 คืน จะเกิดรสเปรี้ยว สามารถนำไปรับประทานหรือขายได้






***ขอบเนื้อหารูปภาพ จาก facbbook page สูตรอาหารเจ*****

แจกฟรีบทสวดคาถาชินบัญชร สำหรับท่านที่สนใจ






วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

ขั้นตอนการทำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

อุปกรณ์ที่ใช้1. ตาชั่ง
2. เหยือกน้ำพลาสติก มีขีดบอกระดับน้ำ ใช้ตวงน้ำ
3. โถพลาสติก หรือโถแก้วใส
4. ผ้าขาวบาง 2 ผืน ใช้กรองกะทิ และน้ำมัน
5. กระบวย หรือทัพพี สำหรับตักน้ำมัน
6. กะละมังสำหรับคั้นกะทิ
7. หม้อเคลือบสำหรับระเหยน้ำออกจากน้ำมัน
8. เตาแก๊สปิกนิก
9. ตู้เย็น หรือถังน้ำแข็ง
10. ขวดบรรจุน้ำมันเพื่อจำหน่าย

วิธีทำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

  1. คั้นกะทิ โดยผสมน้ำต่อมะพร้าวขูด ในอัตรา 1 : 1
  2. นำน้ำกะทิที่ได้ใส่ในตู้เย็น หรือช่องทำน้ำแข็ง หรือแช่ในถังน้ำแข็ง เพื่อให้กะทิแยกชั้นชัดเจน
  3. แยกเอาชั้นครีมชั้นบนของกะทิมาใส่โถหมัก
  4. ปิดโถด้วยผ้าขาวสะอาด ตั้งไว้ 36-48 ชั่วโมง ในที่สะอาด อากาศโปร่ง จะสังเกตเห็นชั้นน้ำมัน เมื่อครบ 24 ชั่วโมง ตั้งไว้จนน้ำมันแยกชั้นสมบูรณ์
  5. ตักน้ำมันออกมากรองด้วยผ้าขาวบางที่พับไว้หลายชั้น
  6. ไล่น้ำออกไปจากน้ำมันที่กรองได้ ด้วยหม้อต้ม 2 ชั้น สังเกตว่าไม่มีฟองปุดขึ้นมาแล้ว จึงใช้ได้
  7. ตั้งทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำมันใสและตะกอนต่างๆ จะตกไปที่ก้นภาชนะ
  8. บรรจุขวด จำหน่ายปลีกและส่ง

คำแนะนำในการผลิต

  1. ผ่ามะพร้าว แล้วล้างน้ำให้สะอาด ก่อนนำมาขูด
  2. ไม่ใช้มะพร้าวงอกและมะพร้าวที่มีตาชื้นแฉะ เพราะหากมีจุลินทรีย์ปะปนจะได้น้ำมันที่มีกลิ่นแรง ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
  3. มะพร้าวขูดต้องนำมาคั้นกะทิทันที ไม่ทิ้งไว้หรือแช่ตู้เย็น เพราะหากมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ทำให้ไม่เกิดการแยกชั้นน้ำมัน
  4. หากคั้นกะทิด้วยมือ ควรคั้นนานๆ เพื่อให้ได้กะทิที่มีความมันมาก
  5. ควรใช้ภาชนะพลาสติกใสเป็นโถหมัก เพื่อสังเกตการแยกชั้นน้ำมันได้ง่าย
  6. ไม่ตั้งโถหมักในห้องครัว เพราะจะมีเชื้อราขึ้นที่ผิวกะทิ

ประโยชน์และวิธีใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

1. ถนอมรักษาให้เส้นผมดกดำ เป็นเงางาม ช่วยขจัดรังแคและเชื้อรา รักษาอาการผมร่วง
วิธีการใช้ ชโลมผมด้วยน้ำมัน นวดคลึงศีรษะ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นโพกศีรษะไว้ 30 นาที ก่อนสระผม
2. ปกป้องผิวจากแสงแดดให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ลดริ้วรอยฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า
วิธีการใช้ ทาน้ำมันและนวดก่อนออกไปกลางแจ้ง หรือก่อนลงว่ายน้ำ หรืออาบแดด
3. บำรุงผิวหน้า ปรับสภาพผิวให้นุ่มนวล เต่งตึง มีสุขภาพดี ลดการเกิดสิว และการสะสมของสารเคมีบนใบหน้า
วิธีการใช้ ใช้สำลีชุบน้ำมันแล้วเช็ดทำความสะอาด และใช้ทา นวดผิวหน้าหลังอาบน้ำเช้าและก่อนนอน
4. ลดอาการผื่นแพ้ แสบคันตามผิวหนัง และรักษาเท้าเปื่อยเนื่องจากเชื้อราและแบคทีเรีย
วิธีการใช้ ทาบริเวณผิวหนังที่บาดเจ็บ อักเสบและแสบคันจากการติดเชื้อ
5. ปรับสภาพผิวหนังด้าน และส้นเท้าแตก
วิธีการใช้ ทาน้ำมันมะพร้าวและนวดคลึงบริเวณส้นเท้า ก่อนนอน จะทำให้ฝ่าเท้านุ่มนวล
6. กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท รักษากระดูกกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ
วิธีการใช้ ใช้นวดตัว เพื่อผ่อนคลาย และบำรุงผิวพรรณ
หากใครสนใจทำน้ำมันมะพร้าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร กรมวิชาการเกษตร หมายเลขโทรศัพท์ 077-556-073, 077-556-194



วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ลูกชิ้นเอ็นหมูเจ (ลูกชิ้นเห็ด)













สูตร 
ส่วนผสม เห็ดนางฟ้า เห็ดออริจิน หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง โปรตีนเกษตร แป้งท้าวยายม่อม แป้งหมี่กึง ผงปรุงรสเห็ดหอมเจ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผงฟูหรือผงแอกคอด(ทำให้เนื้อลูกชิ้นเด้ง..แต่วันนี้ของตัวเองไม่ได้ใส่)



วิธีทำ - นำโปรตีนเกษตรแช่น้ำให้นิ่ม บีบน้ำออก นำมาปั่นรวมกันกับเห็ดนางฟ้
- ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ผงปรุงรสเจ พริกไทยป่น นวดให้เข้ากัน ตามด้วย แป้งเท้ายายม่อม นวดจนเข้ากันดี ใส่แป้งหมี่กึงตามลงไปนวดให้เข้ากัน หรือจะนำไปปั่นอีกครั้งเพื่อให้เนื้อแป้งกับเห็ดเข้ากันดี
- นำไปใส่ภาชนะ ซีลพลาสติกเข้าตู้เย็นให้เย็นจัด ประมาณ 2 ชม.แล้วนำมาปั่นอีกรอบ
- ตั้งน้ำให้ร้อนจัด แต่ต้องหรี่ไฟไม่ต้องเดือด ปั้นก้อนลูกชิ้นลงไปต้ม เมื่อลูกชิ้นลอยให้ตักขึ้น
โปรโมทโพสต์



              ***ทางบล็อคชอขอบคุณเนื้อหา รูปภาพประกอบเพิ่มเติมจาก อินเตอร์เน็ต*****










                                 

ลูกชิ้นเห็ดหอมเจ





เมนูอาหารเจ :ลูกชิ้นเห็ดหอมเจ
ส่วนผสม
แป้งเท้ายายม่อม                     ¼         ถ้วยตวง
แป้งหมี่กึน                             ¾         ถ้วยตวง
เห็ดหอมสับละเอียด                 ½         ถ้วยตวง
โปรตีนเกษตรสับละเอียด          ½         ถ้วยตวง
น้ำซุปผัก                              1 ½      ถ้วยตวง
เกลือป่น                              ½         ช้อนชา
พริกไทยป่น                         1          ช้อนชา
ซอสปรุงรส                          1          ช้อนโต๊ะ
สามเกลอ                            1          ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
  1. ผสมน้ำซุปผัก เกลือป่น ซอสปรุงรส คนให้ละลาย
  2. ผสมแป้ง 2 ชนิด พริกไทย นำเห็ดใส่เครื่องป่นเติมส่วนผสมในข้อที่ 1 ปั่นให้ละเอียด
  3. เทน้ำเห็ดหอมใส่ลงแป้ง 2 ชนิด นวดให้เข้ากัน พักไว้ 15 นาที
  4. นำมาปั้นขนาดที่ต้องการ
  5. นึ่งในน้ำเดือด ไฟกลาง ประมาณ 10 นาที จนกระทั่งสุก
*********เครดิตขอบคุณเนื้อหาเพิ่มเติมจากเว็บไซด์ อินเตอร์เน็ต *********








ลูกชิ้นเจสาหร่ายสไปรูลิน่า

ลูกชิ้นเจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่รับประทานอาหารเจ ซึ่งส่วนผสมและวิธีการทำแบบง่ายๆ มีดังนี้




ส่วนผสมของลูกชิ้นเจสาหร่ายสไปรูลิน่า
โปรตีนเกษตร
พริกไทยดำ
เกลือ
รากผักชีโขลกละเอียด 2 ราก
แป้งโกกิ 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งหมี่กึง 2 ช้อนโต๊ะ
ผงสาหร่ายสไปรูลิน่า



วิธีทำลูกชิ้นเจ
1.นำโปรตีนเกษตรมาแช่น้ำจนอิ่มตัวเต็มที่ มาปั่นให้ละเอียด แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง บีบน้ำออกให้หมดจนเหลือแต่กากโปรตีน
2.นำกากโปรตีนที่ได้มาเติมพริกไทยดำ เกลือ และใส่รากผักชีโขลกละเอียด นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้
3. นำส่วนผสมข้างต้นมาเติมแป้งโกกิ แป้งหมี่กึง แล้วคลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน แล้วปั้นให้เป็นรูปร่างตามชอบ
4. ลูกโปรตีนเกษตรที่ผสมและปั้นเป็นรูปร่างเรียบร้อยแล้ว ไปนึ่งเป็นเวลา 15 นาที
5. เพียงเท่านี้จะได้ลูกชิ้นเจเรียบร้อย ถ้าท่านใดชอบทานลูกชิ้นเจแบบทอดก็นำไปทอด รับประทานกับน้ำจิ้มตามชอบ เช่น น้ำจิ้มไก่ เป็นต้น

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562

สูตรอาหาร: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สาหร่ายสไปรูลิน่า PR ไพลินทร...

สูตรอาหาร: ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สาหร่ายสไปรูลิน่า PR ไพลินทร...: สาหร่ายสไปรูลิน่า เป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน  ( BLUE - GREEN ALGAE)   เหมาะสำหรับ บุคคลทั่วไปที่ต้องการรักษาสุขภาพ ให้แข...

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สาหร่ายสไปรูลิน่า PR ไพลินทร์



สาหร่ายสไปรูลิน่า เป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน   ( BLUE - GREEN ALGAE)

สวัสดีคะเพื่อนๆ maplemint shop online   อลิสรายงานตัวคะ วันนี้อลิสมีเรื่องดีๆมาฝากเพื่อนๆกันนะค่ะ ถ้าพูดถึงเรื่องสุขภาพ ถือว่าเป็นใหญ่ของใครหลายๆคน ยุคสมัยนี้คนเราก็หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือรับประทานอาหารเสริม แต่
อลิสมีอีกหนึ่งสิ่งอย่างที่มีประโยชน์มากๆ และยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ซึ่งมีสารอาหารชนิดหนึ่งที่ถูกกล่าวขานว่า เป็นอาหารอุดมคติ นั่นคือ “ สาหร่ายสไปรูลิน่า " ซึ่งว่ากันว่าเป็นแหล่งที่อุดมด้วยสารอาหารมากกว่าสารอาหารชนิดในโลก



1.ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย: เพื่อความแข็งแรงและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยโปรตีนที่ได้จากสาหร่าย Spirulina ซึ่งเป็นแหล่งที่ให้ปริมาณโปรตีนสูงถึง 60-70% อุดมด้วยกรดอะมิโนหลายชนิดล้วนมีประโยชน์มากมาย เช่น
- ไอโซลิวซีน (Isoleucine): จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ผิวหนัง
- ลิวซีน (Leucine): กระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มกำลังให้กล้ามเนื้อ
- ไลซีน(Lysine): เสริมสร้างการเจริญเติบโต สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายและภูมิคุ้มกันระบบโลหิต มีผลให้ระบบไหลเวียนโลหิตแข็งแรง
- เมทไทโอนีน ( Methionine): ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและกรดไขมัน จึงบำรุงรักษาตับได้ และเป็นสารต้านความเครียด ทำให้ประสาทผ่อนคลาย
- เฟนิลอะลานีน ( Phenylalanine ): มีความจำเป็นสำหรับต่อมไทรอยด์ต่อการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ ที่จำเป็นต่อการเผาผลาญอาหารของร่างกาย
- เทรีโอนีน ( Threonoine ): ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ให้มีการย่อยและการดูดซึมที่ดีขึ้น ช่วยป้องกันการจับตัวของไขมันที่ตับ
- ทริพโตเฟน ( Tryptophan ): ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินบีได้มากขึ้น ส่งผลให้เซลล์ประสาทแข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ช่วยผ่อนคลายความเครียดและทำให้เกิดความสงบใจเย็นลงได้
- วาลีน (Valine ): กระตุ้นการทำงานของระบบการควบคุมอารมณ์ และการประสานงานการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ
2.ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและฟื้นฟูความสดชื่นให้กับร่างกาย: เนื่องจากในสาหร่ายสไปรูลิน่า จะให้สารไฟโคไซยานิน ( Phycocyanin ) และโพลีแซคคาไรด์ ( Polysaccharide ) ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว จึงช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน
3.ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง: ป้องกันโรคโลหิตจาง เนื่องจากอุดมด้วยธาตุเหล็กและโฟลิค แอซิค
4.ช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่าย: สาหร่ายสไปรูลิน่ายังจัดเป็น Dietary fiber และมี คลอโรฟิลล์ ( Chlorophyll )จึงสามารถปรับสมดุลของระบบขับถ่าย บรรเทาอาการท้องผูก
5.ช่วยบำรุงระบบประสาท: สาหร่ายสไปรูลิน่าอุดมด้วยกลุมวิตามินบีจ่างๆ เช่น B1, B2,B6,B12 จึงช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้
6.ป้องกันโรคไขมันในเลือดสูง: โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยสาหร่ายสไปรูลิน่า มีกรดแกมมาไลโนเลนิค (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นของร่างกาย ที่ช่วยลดปริมาณของโคเลสเตอรอลในเลือดอันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคดังกล่าวได้
7.บำรุงสายตา: ป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม ในสาหร่ายสไปรูลิน่าจัดว่าเป็นแหล่งที่อุดมด้วยสารกลุ่มคาร์โรทีนอยด์ โดยเฉพาะเบต้าคาร์โรทีน ซึ่งจะเป็นสารที่ให้วิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา
8.คุณค่าอื่นๆของสาหร่ายสไปรูลิน่า: ยังมีอีกมากมาย เช่น ให้แคลเซียม ป้องกันกระดูกพรุน ยังอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นวิตามินอี เบต้าแคโรทีน แร่ธาตุสังกะสี แมงกานีส ซิลิเนียม ซึ่งจะช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่มาทำลายเซลล์ต่างๆของร่างกายและยังมีคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องผิวต่อแสงแดด และยังช่วยในการชะลอริ้วรอยด้วยเช่นกัน


เหมาะสำหรับ
  1. บุคคลทั่วไปที่ต้องการรักษาสุขภาพ ให้แข็งแรงสมบูรณ
  2. ผู้ป่วยระยะพักพื้น
  3. ผู้ที่เป็นภูมิแพ้
  4. ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ (เพื่อไม่ให้เมาค้างและบำรุงตับ)
  5. ผู้ที่ย่างเข้าวัยทอง
  6. ผู้มีภาวะโลหิตจาง
  7. ผู้ที่ต้องการควบคุมอาหารและลดความอ้วน
  8.  คนที่ทำงานหนัก มีภาวะความเครียดสูง
  9.  ผู้ที่ไม่ชอบทานผักผลไม้
  10. ผู้ที่ทานอาหารมังสวิรัติ


สรรพคุณในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • ช่วยบำรุงสมองช่วยให้ความจำดียิ่งขึ้น
  • เป็นตัวช่วยลดน้ำตาลในเลือดและช่วยลดคอเลสเตอรอล สำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานและและผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
  • ช่วยให้ผิวพรรณสดใส อ่อนกว่าวัย
  • ช่วยสร้างสมดุลย์ร่างกาย ลดความเครียด
  • ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลดกรด
  • สำหรับผู้ดื่มสุรา ช่วยป้องกันเซลล์ตับ ไม่ให้ถูกทำลายจากพิษแอลกอฮอล์
  • ช่วยป้องกันการเมาค้างจากการดื่มสุรา
  • ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง
  • ช่วยยับยั้งการลุกลามของโรคตา เช่น ต้อเห็น ต้อกระจก ตามัว
  • เป็นอาหารเสริมสำหรับผู้ออกกำลังกายและนักกีฬา

เป็นไงกันบ้างค่ะเพื่อนๆ กับสาระที่อลิสเอามานำเสนอ ถึงเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆไม่มากก็น้อย สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถ้าเราไม่ดูแลตอนนี้ มันอาจช้าเกิน อลิสอยากให้เพื่อนๆหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ซาร่าขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสาหร่ายสไปรูลิน่า ทุกวันนี้มีสาหร่ายจำหน่ายมากมายในท้องตลาด ดังนั้นการเลือกซื้อสาหร่าย Spirulina มารับประทาน ควรเลือกสาหร่าย อุดมไปด้วยสาหร่ายสไปรูลิน่าบริสุทธิ์ 100%  ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสาหร่ายสไปรูลิน่าที่มีคุณภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่ง อลิสขอบอกนะค่ะ อย่ารอช้า สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ ดูแลตอนนี้ แข็งแรงในอนาคตนะคะ ครั้งหน้า Maplemint Shop Onlineจะมีอะไรดีๆมานำเสนอ รอติดตามกันด้วยน้า

                                     



   ราคา 500 บาท ต่อขวด ( ค่าขนส่ง 50 บาท / ขวด )                                                                
 สนใจสั่งซื้อ โทร    
  (+66) 0644197982
 email : or379@hotmail.com
                                                                           




ยำวุ้นเส้นเจ






ส่วนผสม ยำวุ้นเส้นเจ

        • ปลาหมึกเจ 100 กรัม
        • กุ้งเจ 50 กรัม
        • เห็ดหูหนูขาว 50 กรัม
        • แครอท (หั่นตามยาว) 30 กรัม
        • วุ้นเส้น (แช่น้ำพอนิ่ม) 100 กรัม
        • ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
        • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
        • น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
        • พริกสดสีแดง (โขลกหยาบ) 7 เม็ด
        • มะเขือเทศ (หั่นเป็นชิ้น) 50 กรัม
        • ขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อน) 1 ต้น
        • ถั่วลิสงคั่ว 20 กรัม


วิธีทำยำวุ้นเส้นเจ

        • 1. ลวกปลาหมึกเจ กุ้งเจ เห็ดหูหนูขาว และแครอทจนสุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ
        • 2. ลวกวุ้นเส้นให้สุก ตักใส่อ่างผสมตามด้วยส่วนผสมในข้อที่ 1 ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกสด
        • 3. ใส่มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย และถั่วลิสง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟ




ขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์   ราคาขวดละ 500 บาท ( ค่าขนส่ง 50 บาท)





ยำหมี่กึงเจ







ส่วนผสม ยำหมี่กึง

     • หมี่กึง (หั่นแว่น) 150 กรัม
     • มะเขือเทศราชินีหั่นครึ่ง 50 กรัม
     • เห็ดชิเมจิสีน้ำตาล 50 กรัม
     • ขึ้นฉ่าย (หั่นท่อน) 1/4 ถ้วยตวง
     • พริกขี้หนูโขลกพอแหลก 7 เม็ด
     • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำตาลทราย 1+1/2 ช้อนชา
     • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
     • น้ำมันพืช สำหรับทอด
     • น้ำเปล่า สำหรับลวก

วิธีทำยำหมี่กึง

     • 1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันร้อนใส่หมี่กึงลงทอดพอสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้
     • 2. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่เห็ดชิเมจิลงลวกพอสุก ตักขึ้นพักไว้
     • 3. ผสมพริกขี้หนู น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนพอเข้ากัน
     • 4. ใส่หมี่กึง มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย และเห็ดชิเมจิ คลุกเคล้าพอเข้ากัน ตักใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟ


เมี่ยงเต้าหู้ย่าง



เมี่ยงเต้าหู้ย่าง ส่วนผสมเมี่ยง 1. ใบเมี่ยง 5 แผ่น (แผ่นปอเปี๊ยะเวียดนาม) 2. เต้าหู้ขาวแข็ง 1 ก้อน 3. ถั่วงอก 300 กรัม 4. ผักสลัด 100 กรัม 5. แครอทขูดเส้น 1 ถ้วย 6. เห็ดหูหนูหั่นเส้นๆ 1 ถ้วย 7. ต้นหอมแยกออกเป็นใบๆ หั่นตามยาวขนาดเมี่ยง 2-3 8. น้ำอุ่นสำหรับแช่ใบเมื่ยง 1 ถ้วย 9. เกลือป่นนิดหน่อย ส่วนผสมน้ำจิ้ม 1. น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ 2. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ 4. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ 5. เกลือป่น 1 ช้อนชา 6. ขิงขูด 2 ช้อนชา 7. พริกชี้ฟ้าบดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 8. แครอทขูดละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 9. ต้นหอมซอยสำหรับโรยน้ำจิ้มนิดหน่อย วิธีทำน้ำจิ้ม 1. ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย เกลือ น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า ตั้งไฟกลางเคี่ยวจนน้ำหนืดๆ ได้ที่ ใส่ขิงขูดให้เคี่ยวเข้ากัน ดีแล้วปิด 2. เวลาเสิร์ฟน้ำจิ้มโรยแครอทขูด พริกบด และ ต้นหอมซอย วิธีทำเมี่ยง 1. ตั้งน้ำให้เดือดลวกถั่วงอก เห็ดหูหนู และแครอทพอสุก แล้วพักทิ้งไว้ให้เย็น 2. นำเต้าหูไปย่างบนกระทะย่างโรยเกลือนิดหน่อย ให้สุกทั่วทั้ง 4 ด้าน 3. หั่นเต้าหู้เป็นทางยาวๆ ไว้ 4. นำใบเมี่ยงแช่น้ำอุ่นจนอ่อนตัว 5. ใส่ผักสลัด ถั่วงอก เห็ดหูหนู แครอท ตรงกลาง วางเต้าหู้ และต้นหอมลงไป 6. ม้วนใบเมี่ยงให้แน่นเป็นท่อนๆ ตามยาว ปิดหัวท้าย 7. หั่นเมื่ยงเป็นท่อนๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่ทำเตรียมไว้

พล่าเต้าหู้กรอบ



ส่วนผสม พล่าเต้าหู้กรอบ
     • เต้าหู้ (หั่นชิ้นเต๋าทอดพอกรอบ) 200 กรัม
     • ขิงอ่อนซอย 1/4 ถ้วยตวง
     • หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
     • ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
     • ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วยตวง
     • แครอทซอย 1/4 ถ้วยตวง
     • ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
     • ผักชีเด็ดใบ 1/4 ถ้วยตวง
     • พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
     • เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม น้ำปรุงรส
     • น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำมะขามเปียกต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
     • เกลือป่น 1+1/2 ช้อนชา
     • น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำปรุงรส
     • ผสมส่วนผสมทั้งหมด คนให้ละลายเข้ากัน

วิธีทำพล่าเต้าหู้กรอบ
     • เคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ใส่น้ำปรุงรส ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ


เยื่อไผ่น้ำแดงเจ




ส่วนผสม เยื่อไผ่น้ำแดงเจ

     • เยื่อไผ่ (แช่น้ำหั่นท่อน) 50 กรัม
     • แครอท (หั่นแท่ง) 50 กรัม
     • เห็ดชิเมจิสีน้ำตาล 30 กรัม 
     • เห็ดชิเมจิสีขาว 30 กรัม
     • บรอกโคลี (หั่นชิ้น) 50 กรัม
     • น้ำมันพืช 2 ช้อนชา
     • ขิงหั่นแว่น 5 แว่น
     • เห็ดหอมแห้ง (แช่น้ำพอนิ่มหั่นเส้น) 3 ดอก
     • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
     • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
     • ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
     • น้ำมันงา 1/4 ช้อนชา
     • พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
     • น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
     • แป้งมันผสมน้ำเปล่า 1/2 ช้อนชา
     • น้ำเปล่า (สำหรับลวก)
     • ซีอิ๊วพริก 
     • ข้าวสวย



วิธีทำเยื่อไผ่น้ำแดงเจ

      1. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด นำแครอท เห็ดชิเมจิทั้ง 2 สี และบรอกโคลียัดใส่เยื่อไผ่ให้สวยงาม นำไปลวกพอสุก ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ ใส่ภาชนะ พักไว้
      2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่ขิงและเห็ดหอมลงผัดพอหอม 
      3. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว ซอสเห็ดหอม น้ำมันงา และพริกไทยป่น ผัดพอเข้ากัน 
      4. เติมน้ำเปล่า แป้งมันผสมน้ำเปล่า ผัดพอเข้ากันอีกครั้ง นำไปราดบนเยื่อไผ่ จัดเสิร์ฟกับข้าวสวยและซีอิ๊วพริก