วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2562

แปรรูปผลไม้เป็นงานพิเศษทำที่บ้าน

แปรรูปผลไม้เป็นงานพิเศษทำที่บ้าน

มะขามป้อม ผลไม้มากคุณประโยชน์ ปัจจุบันยังหาทานผลสดๆได้ยากเนื่องจากไม่ค่อยมีใครนำต้นมาปลูก นอกจากการปลูกเป็นไม้ผลเศรษฐกิจสำหรับเก็บผลขาย เพราะมะขามป้อมมีสรรพคุณทางยา ทำให้มีการนำไปตากแห้งขายเป็นสมุนไพร
ซึ่งเป็นได้ทั้งงานพิเศษทำที่บ้านเพื่อหารายได้เสริม และเป็นอาชีพหลักของครอบครัว สำหรับวันนี้ eveleighmarket.com มาแนะนำสูตรและวิธีทำมะขามป้อมแช่อิ่ม เป็นงานพิเศษทำที่บ้าน ที่สามารถสร้างรายได้ให้ตลอดทั้งปีค่ะ

สูตรและวิธีทำมะขามป้อมแช่อิ่ม

วัตถุดิบและส่วนประกอบ
1.มะขามป้อมผลดิบ 500 กรัม
2.เกลือป่น 3 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทราย 300 กรัม
4.น้ำเปล่า 3 ถ้วย
5.น้ำปูนใส 2 ถ้วย
วิธีทำมะขามป้อมแช่อิ่ม
1.ล้างมะขามป้อมให้สะอาด ซอยตามลูกให้รอบหรือคว้านเอาเมล็ดออก
2.ผสมน้ำเปล่ากับเกลือคนให้เกลือละลาย นำมะขามป้อมที่เตรียมไว้แทใส่ลงในน้ำเกลือ
3.ปิดฝาภาชนะหรือปิดทับให้มะขามป้อมแช่ลงในน้ำเกลือ ทิ้งไว้ 1 คืน
4.นำมะขามป้อมล้างน้ำเปล่าอีกครั้ง แล้วบีบให้แห้งจากนั้นแช่ในน้ำปูนใส 1-2 ชั่วโมง
5.นำมะขามป้อมออกจากน้ำปูน แล้วผึ่งให้แห้ง
6.เทน้ำเปล่า 3 ถ้วยใส่ในภาชนะนำขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำตาลทรายลงไป เคี้ยวไฟอ่อนๆ จนน้ำเชื่อมเริ่มเหนียว ยกลงพักไว้ให้เย็น
7.กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำมะขามป้อมลงแช่อิ่มในน้ำเชื่อมปิดฝาไว้ 1 คืน
8.นำมะขามป้อมออกจากน้ำเชื่อม แล้วช้อนฟองในน้ำเชื่อมทิ้ง จากนั้นนำไปตั้งไฟเคี่ยวสักครู่แล้วยกลงพักไว้ให้เย็น
9.จากนั้นนำมะขามป้อมลงแช่ในน้ำเชื่อมแล้วปิดฝา
10.ทำซ้ำๆ ประมาณ 3-5 วันหรือจนรู้สึกว่าน้ำเชื่อเริ่มซึมเข้าในเนื้อมะขามป้อม
11.แพ็คใส่ถุงหรือภาชนะ พร้อมขาย
เคล็ดลับความอร่อยมะขามป้อมแช่อิ่ม
มะขามป้อมแช่อิ่ม เก็บใส่ภาชนะลอยในน้ำเชื่อมแล้วใส่ตู้เย็นไว้ได้นาน ประมาณ 3 เดือน หรือจะทานเป็นมะขามป้อมลอยแก้วเย็นก็ชื่นใจ นอกจากทำทานแล้วยังเป็นงานพิเศษทำที่บ้านสามารถขายหารายได้เสริม ได้อีกด้วย

สรรพคุณของมะขามป้อม
1.ทานแก้อาการคลื่นไส้อาเจียนได้
2.ลดคอเลสตอรอล ลดน้ำตาลและไขมันในเลือด ช่วยการป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
3.บำรุงรักษาตา แก้ตาอักเสบ
4.บำรุงประสาทและสมอง
5.ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ด้วยสรรพคุณของมะขามป้อม ทำให้มีการนำไปเป็นส่วนประกอบในตัวยาหลายชนิด สำหรับคนที่มีพื้นที่ว่างการปลูกไว้เป็นร่มเงา หรือปลูกไว้ตามแนวรั้ว นอกจากเก็บผลสุกทำเป็นมะขามป้อมแช่อิ่มแล้ว ยังนำไปตากแห้งเพื่อขายเป็นสมุนไพรได้อีกทางหนึ่ง งานพิเศษทำที่บ้านหาได้ไม่ยากหากเรามองสิ่งที่อยู่รอบๆตัวแล้วนำมาสร้างรายได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ

ตรีผลา เป็นชื่อพิกัดยาในตำรับการรักษาโรคแบบแพทย์แผนไทย

ตรีผลา ผลไม้สามอย่างที่ให้คุณในฤดูร้อน

  สมอภิเภก สมอไทย และมะขามป้อม

คุณประโยชน์ที่ว่านี้ก็คือช่วยปรับสมดุลต่าง ๆ ที่จะแปรปรวนในช่วงฤดูร้อน ปัจจุบัน มีวิจัยพบว่า ผลไม้ทั้งสามนี้มีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระสูง จึงช่วยต้านหวัดได้ดี และมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งตับ รวมถึงตับอ่อนได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยาระบาย รู้ถ่ายรู้ปิด กล่าวคือ ใครท้องผูกก็จะช่วยให้ถ่าย แต่ถ้าใครถ่ายมากเกินไปก็จะทำให้หยุดถ่ายนั้นเอง  สารพัดประโยชน์อย่างนี้หากคิดปรุงดื่มดูสักทีก็ไม่ใช่เรื่องยาก เรามีสูตรมาฝากคุณ

ส่วนผสม                                            เม.ย.-ก.ค.                ส.ค.-พ.ย.           ธ.ค.-มี.ค.
สมอภิเภกแห้ง                                หนัก 12 บาท (180 กรัม)      4 บาท              8  บาท
สมอไทยสดหรือแห้งก็ได้                    หนัก  8  บาท (120 กรัม)   12 บาท              4 บาท
มะขามป้อมสดหรือแห้งก็ได้                 หนัก  4    บาท (60 กรัม)   8  บาท             12 บาท
น้ำเปล่า

วิธีทำ
เมื่อซื้อตัวยาผลไม้แห้ง-สดเหล่านี้มาจากร้านจำหน่ายยาสมุนไพรไทย หรือตลาดสด  ให้นำมาล้างให้สะอาด ก่อนบุบด้วยสากหินให้พอแตก ใส่ลงในหม้อสเตนเลสหรือหม้อดิน ใช้มือกดตัวยาให้ติดหม้อ แล้วรินน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมหลังมือ  ปิดฝา ต้มด้วยไฟกลางจนเดือดแล้วหรี่ไฟลงเคี่ยวนาน 30 นาที รินน้ำครั้งที่หนึ่งใส่ภาชนะไว้ เติมน้ำลงในหม้อใบเดิมให้สูงกว่าตัวยา 1 ข้อนิ้วมือ ตั้งไฟทำเช่นเดิม รินน้ำที่ได้ผสมกับน้ำตรีผลาส่วนที่ 1 ทำเช่นเดียวกันอีกครั้ง (รวม 3 รอบ)
กรองน้ำยาที่ได้ผ่านผ้าขาวบาง แล้วนำกากยาไปจำเริญ (เทใส่โคนต้นไม้) นำน้ำตรีผลาที่ได้มาดื่มครั้งละ 1 ถ้วยชา ถ้ารับประทานไม่หมด รินใส่ขวด แช่เย็นเก็บไว้ได้ 1 สัปดาห์  ควรอุ่นก่อนรับประทานเสมอ

Tip
น้ำตรีผลามีรสเปรี้ยวและฝาด เพื่อรสชาติที่ดีขึ้น สามารถตวงน้ำตรีผลา 1 ถ้วยชา ผสมกับน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำอุ่นลงไปอีก ½ ถ้วย คนให้เข้ากันรินใส่น้ำแข็งดื่ม เป็นเครื่องดื่มเย็นได้ ทว่าดื่มแบบร้อนสรรพคุณจะออกฤทธิ์ได้ดีกว่า

หมายเหตุ:
แม้ตำรับยานี้จะให้คุณดีในฤดูร้อน แต่ก็มีวิธีปรับน้ำหนักตัวยาเพื่อให้สามารถต้มดื่มบำรุงสุขภาพได้ทั้งปี ตามที่ระบุไว้

เอกสารอ้างอิง “สูตรสมุนไพรต้านชรายับยั้งมะเร็ง www.stage1.thaihealth.or.th”

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562

#สูตรแหนมเห็ดนางฟ้าเจ

#สูตรแหนมเห็ดนางฟ้าเจ ทำทานเองง่ายๆ

ส่วนผสมในการทำแหนมเห็ดนางฟ้า
1.เห็ดนางฟ้า1 กิโลกรัม
2.เกลือ 25 กรัม
3.ข้าวเหนียวสุก 200 กรัม
4.พริกขี้หนูสด ตามความเหมาะสม

วิธีการทำ
1.เลือกเห็ดนางฟ้าดอกสวยๆ มาตัดส่วนที่สกปรกทิ้ง ล้างน้ำให้สะอาด ฉีกเห็ดนางฟ้าตามแนวยาว ให้เป็นเส้นกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
2.ลวกเห็ดในน้ำเดือดให้พอสุก ตักขึ้นพักให้เย็นหรือจะนึ่งก็ได้
3.บีบน้ำออกจากเห็ดให้แห้งสนิท (ใช้ผ้าขาวบางห่อแล้วบีบน้ำออก)
4.คลุกเคล้าเห็ดกับเกลือ และข้าวเหนียวสุก
5.บรรจุเห็ดลงถุงพลาสติก ใส่พริกขี้หนูสดตามชอบ รัดถุงให้แน่น ไม่ให้อากาศเข้า
ทิ้งไว้ประมาณ 2 คืน จะเกิดรสเปรี้ยว สามารถนำไปรับประทานหรือขายได้






***ขอบเนื้อหารูปภาพ จาก facbbook page สูตรอาหารเจ*****

แจกฟรีบทสวดคาถาชินบัญชร สำหรับท่านที่สนใจ






วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

ขั้นตอนการทำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

อุปกรณ์ที่ใช้1. ตาชั่ง
2. เหยือกน้ำพลาสติก มีขีดบอกระดับน้ำ ใช้ตวงน้ำ
3. โถพลาสติก หรือโถแก้วใส
4. ผ้าขาวบาง 2 ผืน ใช้กรองกะทิ และน้ำมัน
5. กระบวย หรือทัพพี สำหรับตักน้ำมัน
6. กะละมังสำหรับคั้นกะทิ
7. หม้อเคลือบสำหรับระเหยน้ำออกจากน้ำมัน
8. เตาแก๊สปิกนิก
9. ตู้เย็น หรือถังน้ำแข็ง
10. ขวดบรรจุน้ำมันเพื่อจำหน่าย

วิธีทำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

  1. คั้นกะทิ โดยผสมน้ำต่อมะพร้าวขูด ในอัตรา 1 : 1
  2. นำน้ำกะทิที่ได้ใส่ในตู้เย็น หรือช่องทำน้ำแข็ง หรือแช่ในถังน้ำแข็ง เพื่อให้กะทิแยกชั้นชัดเจน
  3. แยกเอาชั้นครีมชั้นบนของกะทิมาใส่โถหมัก
  4. ปิดโถด้วยผ้าขาวสะอาด ตั้งไว้ 36-48 ชั่วโมง ในที่สะอาด อากาศโปร่ง จะสังเกตเห็นชั้นน้ำมัน เมื่อครบ 24 ชั่วโมง ตั้งไว้จนน้ำมันแยกชั้นสมบูรณ์
  5. ตักน้ำมันออกมากรองด้วยผ้าขาวบางที่พับไว้หลายชั้น
  6. ไล่น้ำออกไปจากน้ำมันที่กรองได้ ด้วยหม้อต้ม 2 ชั้น สังเกตว่าไม่มีฟองปุดขึ้นมาแล้ว จึงใช้ได้
  7. ตั้งทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำมันใสและตะกอนต่างๆ จะตกไปที่ก้นภาชนะ
  8. บรรจุขวด จำหน่ายปลีกและส่ง

คำแนะนำในการผลิต

  1. ผ่ามะพร้าว แล้วล้างน้ำให้สะอาด ก่อนนำมาขูด
  2. ไม่ใช้มะพร้าวงอกและมะพร้าวที่มีตาชื้นแฉะ เพราะหากมีจุลินทรีย์ปะปนจะได้น้ำมันที่มีกลิ่นแรง ไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
  3. มะพร้าวขูดต้องนำมาคั้นกะทิทันที ไม่ทิ้งไว้หรือแช่ตู้เย็น เพราะหากมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ทำให้ไม่เกิดการแยกชั้นน้ำมัน
  4. หากคั้นกะทิด้วยมือ ควรคั้นนานๆ เพื่อให้ได้กะทิที่มีความมันมาก
  5. ควรใช้ภาชนะพลาสติกใสเป็นโถหมัก เพื่อสังเกตการแยกชั้นน้ำมันได้ง่าย
  6. ไม่ตั้งโถหมักในห้องครัว เพราะจะมีเชื้อราขึ้นที่ผิวกะทิ

ประโยชน์และวิธีใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

1. ถนอมรักษาให้เส้นผมดกดำ เป็นเงางาม ช่วยขจัดรังแคและเชื้อรา รักษาอาการผมร่วง
วิธีการใช้ ชโลมผมด้วยน้ำมัน นวดคลึงศีรษะ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นโพกศีรษะไว้ 30 นาที ก่อนสระผม
2. ปกป้องผิวจากแสงแดดให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ลดริ้วรอยฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า
วิธีการใช้ ทาน้ำมันและนวดก่อนออกไปกลางแจ้ง หรือก่อนลงว่ายน้ำ หรืออาบแดด
3. บำรุงผิวหน้า ปรับสภาพผิวให้นุ่มนวล เต่งตึง มีสุขภาพดี ลดการเกิดสิว และการสะสมของสารเคมีบนใบหน้า
วิธีการใช้ ใช้สำลีชุบน้ำมันแล้วเช็ดทำความสะอาด และใช้ทา นวดผิวหน้าหลังอาบน้ำเช้าและก่อนนอน
4. ลดอาการผื่นแพ้ แสบคันตามผิวหนัง และรักษาเท้าเปื่อยเนื่องจากเชื้อราและแบคทีเรีย
วิธีการใช้ ทาบริเวณผิวหนังที่บาดเจ็บ อักเสบและแสบคันจากการติดเชื้อ
5. ปรับสภาพผิวหนังด้าน และส้นเท้าแตก
วิธีการใช้ ทาน้ำมันมะพร้าวและนวดคลึงบริเวณส้นเท้า ก่อนนอน จะทำให้ฝ่าเท้านุ่มนวล
6. กระตุ้นการทำงานของระบบประสาท รักษากระดูกกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ
วิธีการใช้ ใช้นวดตัว เพื่อผ่อนคลาย และบำรุงผิวพรรณ
หากใครสนใจทำน้ำมันมะพร้าว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร กรมวิชาการเกษตร หมายเลขโทรศัพท์ 077-556-073, 077-556-194



วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ลูกชิ้นเอ็นหมูเจ (ลูกชิ้นเห็ด)













สูตร 
ส่วนผสม เห็ดนางฟ้า เห็ดออริจิน หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง โปรตีนเกษตร แป้งท้าวยายม่อม แป้งหมี่กึง ผงปรุงรสเห็ดหอมเจ ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ผงฟูหรือผงแอกคอด(ทำให้เนื้อลูกชิ้นเด้ง..แต่วันนี้ของตัวเองไม่ได้ใส่)



วิธีทำ - นำโปรตีนเกษตรแช่น้ำให้นิ่ม บีบน้ำออก นำมาปั่นรวมกันกับเห็ดนางฟ้
- ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย ผงปรุงรสเจ พริกไทยป่น นวดให้เข้ากัน ตามด้วย แป้งเท้ายายม่อม นวดจนเข้ากันดี ใส่แป้งหมี่กึงตามลงไปนวดให้เข้ากัน หรือจะนำไปปั่นอีกครั้งเพื่อให้เนื้อแป้งกับเห็ดเข้ากันดี
- นำไปใส่ภาชนะ ซีลพลาสติกเข้าตู้เย็นให้เย็นจัด ประมาณ 2 ชม.แล้วนำมาปั่นอีกรอบ
- ตั้งน้ำให้ร้อนจัด แต่ต้องหรี่ไฟไม่ต้องเดือด ปั้นก้อนลูกชิ้นลงไปต้ม เมื่อลูกชิ้นลอยให้ตักขึ้น
โปรโมทโพสต์



              ***ทางบล็อคชอขอบคุณเนื้อหา รูปภาพประกอบเพิ่มเติมจาก อินเตอร์เน็ต*****










                                 

ลูกชิ้นเห็ดหอมเจ





เมนูอาหารเจ :ลูกชิ้นเห็ดหอมเจ
ส่วนผสม
แป้งเท้ายายม่อม                     ¼         ถ้วยตวง
แป้งหมี่กึน                             ¾         ถ้วยตวง
เห็ดหอมสับละเอียด                 ½         ถ้วยตวง
โปรตีนเกษตรสับละเอียด          ½         ถ้วยตวง
น้ำซุปผัก                              1 ½      ถ้วยตวง
เกลือป่น                              ½         ช้อนชา
พริกไทยป่น                         1          ช้อนชา
ซอสปรุงรส                          1          ช้อนโต๊ะ
สามเกลอ                            1          ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
  1. ผสมน้ำซุปผัก เกลือป่น ซอสปรุงรส คนให้ละลาย
  2. ผสมแป้ง 2 ชนิด พริกไทย นำเห็ดใส่เครื่องป่นเติมส่วนผสมในข้อที่ 1 ปั่นให้ละเอียด
  3. เทน้ำเห็ดหอมใส่ลงแป้ง 2 ชนิด นวดให้เข้ากัน พักไว้ 15 นาที
  4. นำมาปั้นขนาดที่ต้องการ
  5. นึ่งในน้ำเดือด ไฟกลาง ประมาณ 10 นาที จนกระทั่งสุก
*********เครดิตขอบคุณเนื้อหาเพิ่มเติมจากเว็บไซด์ อินเตอร์เน็ต *********








ลูกชิ้นเจสาหร่ายสไปรูลิน่า

ลูกชิ้นเจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่รับประทานอาหารเจ ซึ่งส่วนผสมและวิธีการทำแบบง่ายๆ มีดังนี้




ส่วนผสมของลูกชิ้นเจสาหร่ายสไปรูลิน่า
โปรตีนเกษตร
พริกไทยดำ
เกลือ
รากผักชีโขลกละเอียด 2 ราก
แป้งโกกิ 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งหมี่กึง 2 ช้อนโต๊ะ
ผงสาหร่ายสไปรูลิน่า



วิธีทำลูกชิ้นเจ
1.นำโปรตีนเกษตรมาแช่น้ำจนอิ่มตัวเต็มที่ มาปั่นให้ละเอียด แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง บีบน้ำออกให้หมดจนเหลือแต่กากโปรตีน
2.นำกากโปรตีนที่ได้มาเติมพริกไทยดำ เกลือ และใส่รากผักชีโขลกละเอียด นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้
3. นำส่วนผสมข้างต้นมาเติมแป้งโกกิ แป้งหมี่กึง แล้วคลุกเคล้าผสมให้เข้ากัน แล้วปั้นให้เป็นรูปร่างตามชอบ
4. ลูกโปรตีนเกษตรที่ผสมและปั้นเป็นรูปร่างเรียบร้อยแล้ว ไปนึ่งเป็นเวลา 15 นาที
5. เพียงเท่านี้จะได้ลูกชิ้นเจเรียบร้อย ถ้าท่านใดชอบทานลูกชิ้นเจแบบทอดก็นำไปทอด รับประทานกับน้ำจิ้มตามชอบ เช่น น้ำจิ้มไก่ เป็นต้น